all2nine

ผีตาโขน ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทศกาลผีระดับโลก ความเชื่อศรัทธา

ผีตาโขน ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทศกาลผีระดับโลก ความเชื่อศรัทธา
ผีตาโขน ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทศกาลผีระดับโลก ความเชื่อศรัทธา

ผีตาโขน เทศกาลระดับโลกแห่งเมืองด่านซ้าย ประวัติงานประเพณีบุญหลวง จังหวัดเลย

ผีตาโขน เป็นหนึ่งในเทศกาล ประเพณีที่โดดเด่นของไทย จัดขึ้นที่ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเทศกาลนี้มีความสำคัญ และ เป็นที่รู้จักในระดับประเทศ โดยเฉพาะในช่วง เดือน 7 (ตามปฏิทินไทย) ซึ่งมักจะจัดขึ้นระหว่าง เดือนมีนาคมถึงกรกฎาคม ทั้งนี้วันจัดงาน อาจแตกต่างกันไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับการกำหนดของ คนทรงประจำเมือง ที่จะเลือกวันเหมาะสมสำหรับการจัดงาน ซึ่งประเพณีนี้เรียกว่า “บุญหลวง” โดยจะแบ่งออกเป็น สามส่วนหลัก คือ เทศกาลตาโขน ประเพณีบุญบั้งไฟ และ งานบุญหลวงหรือ บุญผะเหวดความเป็นมาของตาโขนสืบเนื่องมาจาก มหาเวสสันดรชาดก ซึ่งเป็นเรื่องราวทาง พุทธศาสนาเกี่ยวกับการที่ พระเวสสันดร และ พระนางมัทรี จะเสด็จกลับจากป่ามายังเมืองหลวงทำให้บรรดาสัตว์ป่าและภูติผีต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในป่าต่างออกมา ส่งเสด็จด้วยความอาลัย ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของการแต่งตัวเป็นผี และ การเฉลิมฉลองเทศกาล ตาโขนจะจัดขึ้นทั้งหมด สามวัน

โดยวันแรกเรียกว่า วันรวม (วันโฮม) ซึ่งจะมีพิธีกรรมสำคัญ เช่น พิธีเบิกพระอุปคุตต์ ที่บริเวณลำน้ำหมันกับลำน้ำศอก ส่วนวันที่สองเป็นวันที่ มีความสนุกสนานมากที่สุด มีการจุดบั้งไฟบูชา พร้อมขบวนพาเหรด การแต่งกายที่โดดเด่น และ การแข่งขันเต้นรำ เป็นส่วนหนึ่งของงาน โดยวันที่สาม หรือ วันสุดท้ายจะเน้น การฟังเทศน์ เพื่อเสริมสิริมงคล ให้แก่ชาวบ้านตาโขนยังมีความเชื่อ โบราณที่สืบทอดมาเป็นเวลานาน ผู้ที่แต่งตัวเป็น ตาโขนใหญ่ ต้องนำเครื่องแต่งกายทั้งหมดไปทิ้งที่ ลำน้ำหมัน หลังเสร็จสิ้นพิธี เพื่อเป็นการปลดปล่อย ความทุกข์ยากและสิ่งไม่ดีออกไป และห้ามนำชุดกลับเข้าบ้าน ซึ่งสื่อถึงการเริ่มต้นใหม่ในปีถัดไป นอกจากนี้ ตาโขนยังถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของสโมสร ฟุตบอลท้องถิ่น อย่าง สโมสรฟุตบอลเลย ซิตี้เทศกาลตาโขนไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองทางศาสนา และ วัฒนธรรม แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อ และ ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เชื่อมโยงกับความศรัทธา และ การใช้ชีวิตของคนในชุมชน

ปู่เยอ-ย่าเยอ ตำนาน ต้นกำเนิดผีตาขน และ ความศรัทธา

นอกจากการละเล่นตาโขน ที่เป็นที่รู้จักกันดีแล้ว ยังมีตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา ถึงบรรพบุรุษต้นกำเนิดของตาโขน นั่นก็คือ ปู่เยอ-ย่าเยอ ตำนานเล่าว่า ณ เมืองแถน มีเครือเถาวัลย์ที่ชื่อว่า “เขากาดยักษ์” เจริญเติบโตขึ้น จนทอดยาวไปถึงสวรรค์ ปกคลุมดินแดนเบื้องล่าง ทำให้แสงจากดวงอาทิตย์ถูกบดบัง ส่งผลให้บ้านเมืองตก อยู่ในความมืดมิด และ หนาวเย็น ประชาชนไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ ทุกคนเดือดร้อนอย่างมากวันหนึ่ง มีสามีภรรยาคู่หนึ่งชื่อ ปู่เยอ-ย่าเยอ อาสาตัดเครือเขากาดยักษ์ เพื่อคืนความสว่างให้กับแผ่นดิน พระยาขุนบูลม เจ้าเมืองแถน ได้ถามทั้งสองว่า หากสามารถตัด เครือเขากาดยักษ์ได้สำเร็จ

ผีตาโขน ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทศกาลผีระดับโลก ความเชื่อศรัทธา

ต้องการสิ่งใดเป็นรางวัล ปู่เยอ-ย่าเยอ ตอบอย่างถ่อมตัวว่า ไม่ขอสิ่งใด นอกจากขอให้ชื่อของทั้งสองไม่ถูกลืม และ ให้คนในแผ่นดิน เคารพนับถือ บูชาเมื่อพระยาขุนบูลมรับปาก ปู่เยอ-ย่าเยอ จึงลงมือใช้ขวานใหญ่ ตัดเครือเขากาดยักษ์อย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งกลางวัน และ กลางคืน เป็นเวลานานถึง 3 เดือนกับอีก 3 วัน ในที่สุดเครือเขากาดยักษ์ก็ขาดลง แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่โตมหึมา เครือเถานั้นได้ล้มทับปู่เยอ-ย่าเยอจนเสียชีวิตทันที แม้ทั้งสองจะจากไป แต่ฟ้า และ ดินก็กลับมาสดใสอีกครั้ง ประชาชนสามารถ กลับมาทำมาหากิน ได้ดังเดิมเพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีของปู่เยอ-ย่าเยอ พระยาขุนบูลม และ ชาวเมืองจึงได้สร้างศาลขึ้น และนำ “ขน” ของปู่เยอ-ย่าเยอมาไว้เพื่อกราบไหว้บูชา

ซึ่งเป็นที่มาของการเคารพ นับถือสืบต่อกันมาความเชื่อ ในประเพณีตาโขน ตามความเชื่อของชาวด่านซ้าย การละเล่นตาโขน ไม่ได้เป็นเพียงแค่กิจกรรม เพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นการบวงสรวง และ บูชาดวงวิญญาณ ของบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ซึ่งเชื่อกันว่าดวงวิญญาณเหล่านี้มีอำนาจในการปกปักรักษาบ้านเมือง และ อาจดลบันดาลทั้งความเจริญรุ่งเรือง หรือ ความเสื่อมเสียได้ ดังนั้น เพื่อให้ดวงวิญญาณ เหล่านั้นพอใจ ชาวบ้านจึงจัดการละเล่นตาโขน ขึ้นทุกปี เพื่อแสดงความเคารพ และ ขอพรให้บ้านเมือง อยู่เย็นเป็นสุข

ประเพณีเดือน 7 : ประเพณีการละเล่นผีตาโขนในงานบุญหลวง จังหวัดเลย

ผีเมืองตาโขน เป็นการละเล่นพื้นบ้าน ที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะของชาวอำเภอ ด่านซ้าย จังหวัดเลย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของประเพณีบุญหลวง จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงเดือนมิถุนายน หรือ กรกฎาคม ผู้เล่นจะสวมหน้ากาก ที่ออกแบบให้ดูน่ากลัว และ มีสีสัน พร้อมแต่งกาย ด้วยชุดที่ทำจากเศษผ้าหลากสี เย็บติดกันเป็นเอกลักษณ์ และ มีการแสดงท่าทางที่สนุกสนาน เพื่อสร้างความรื่นเริง ในระหว่างงานลักษณะ ของหน้ากากผีทำจาก วัสดุพื้นบ้าน เช่น หวดนึ่งข้าวเหนียวที่นำมาดัดเป็นส่วนหัว หน้ากากจะเจาะช่อง สำหรับตา และ ตกแต่งด้วยจมูก ไม้ยาวคล้ายงวงช้าง ขณะที่เขาจะทำจาก ปลิ่มมะพร้าวที่ตัดเป็นรูป ทรงตามต้องการ นอกจากนี้ ผู้เล่นจะใส่ “หมากกะแหล่ง หรือกระดิ่งที่บั้นเอว เพื่อให้เกิดเสียงขณะเดิน และ เต้นรำ ผีเมืองตาโขน ยังพกอาวุธ ประจำตัวเป็นดาบ หรือ ง้าวทำจากไม้เพิ่มความสมจริง ให้กับการละเล่น เทศกาลบุญหลวง ซึ่งเป็นการรวมพิธีสำคัญหลายอย่างเข้าด้วยกัน เช่น บุญเผวส บุญบั้งไฟ และ การสะเดาะเคราะห์บ้านเมือง มีจุดประสงค์ เพื่อสร้างความเป็น สิริมงคลแก่ชุมชน โดยในพิธีนี้

ชาวบ้านเชื่อว่าการแห่ตาโขนเป็นการส่งเสริม ให้เกิดความสมานฉันท์ และ เป็นสัญลักษณ์ ของการขับไล่สิ่งไม่ดี ออกไปจากชีวิต พิธีกรรมหลัก ประกอบด้วยการ แห่พระเวสสันดรเข้าเมือง การจุดบั้งไฟ และ การลอยเครื่องแต่งกายตาโขนในลำน้ำ เพื่อสะเดาะเคราะห์และขอฝนงานตาโขนจะเริ่มต้นด้วยพิธี อัญเชิญพระอุปคุต จากลำน้ำหมันมาประดิษฐาน ที่วัดโพนชัย หลังจากนั้น จะมีการแห่ตาโขน ทั่วเมืองพร้อมเสียงดนตรี และ การแสดงรื่นเริง ขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ ของชาวบ้าน และ พิธีสำคัญอื่นๆ จะมีตลอด 3 วันของงาน โดยเฉพาะในวันสุดท้าย จะมีการเทศน์มหาชาติ ซึ่งถือเป็นการปิดท้าย พิธีบุญหลวงอย่างสมบูรณ์ ความสำคัญของตาโขน ไม่ได้มีเพียงแค่ ความสนุกสนาน แต่ยังสื่อถึงการส่งเสริมความสามัคคีในชุมชน ความเชื่อทางศาสนา และ การสร้างขวัญกำลังใจ ให้แก่ผู้คนในพื้นที่ ซึ่งได้สืบทอด จากบรรพบุรุษมายังปัจจุบัน ถือเป็นวัฒนธรรม ที่ช่วยรักษาความกลมเกลียว ในหมู่ชาวบ้านอย่างแท้จริง ซื้อหวย

ขั้นตอนการ ประกอบพิธีกรรมบุญหลวง และ การละเล่นผีตาโขน

ผีตาโขน ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทศกาลผีระดับโลก ความเชื่อศรัทธา
  1. พิธีเบิกพระอุปคุต
  • พิธีเริ่มต้นงาน โดยมีการอัญเชิญพระอุปคุต เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย และ ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญเจ้าพ่อกวน เพื่อขอพรให้การจัดงานราบรื่น และ ปลอดภัย
  1. พิธีแห่พระเวสสันดรเข้าเมือง
  • ในวันที่สอง จะมีขบวนแห่พระเวสสันดรเข้าเมือง จุดบั้งไฟเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ และลอยชุดผีตาโขนพร้อมหุ่นผีตาโขนลงน้ำ เพื่อเป็นการลอยเคราะห์ ปลดปล่อยความทุกข์โศก
  • ช่วงเย็นมีการเทศน์ มาลัยหมื่น มาลัยแสน ซึ่งเป็นธรรมเทศนาที่ ถือเป็นพิธีสำคัญของวัน
  1. พิธีถวายภัตตาหารและสะเดาะเคราะห์
  • ในวันสุดท้าย มีการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ และ ทำพิธีสะเดาะเคราะห์บ้านเมือง เพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี พร้อมทั้งเทศน์มหาชาติให้ครบ 13 กัณฑ์ เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชุมชน จึงถือเป็นการสิ้นสุดพิธีบุญหลวง

พิธีบุญหลวง และ การละเล่นผีตาโขนนี้สะท้อนถึงความศรัทธา และ วัฒนธรรมท้องถิ่นที่สืบทอดกันมายาวนาน พร้อมทั้งแสดงถึง ความร่วมแรงร่วมใจ ของชุมชนในการจัดงาน

โดยกัณฑ์ที่10 ในการเทศน์มหาชาติ ทำให้ผู้คนชอบมาก โดยเนื้อเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อพระเวสสันดรและ พระนางมัทรีตรัสสนทนากัน ด้วยความยินดี ท้าวสักกะเทวราช ทรงระลึกถึงเหตุการณ์ ในวันที่ผ่านมา ที่พระเวสสันดร ได้ทรงมอบพระโอรส และ พระธิดาให้แก่พราหมณ์ชูชก จนเกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหวขึ้น ด้วยความเกรงว่าพระเวสสันดร จะประทานพระนางมัทรีให้แก่ผู้ใดที่มาเอ่ยขอ ท้าวสักกะจึงจำแลง พระองค์มาทูลขอพระนางมัทรี ด้วยพระองค์เอง เพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นได้รับพระนางไป และเพื่อเสริมบารมีให้พระโพธิสัตว์ พระเวสสันดรทรงไม่ลังเล ที่จะมอบพระนางมัทรี ตามคำขอของท้าวสักกะ เมื่อพระเวสสันดรทรงประทาน พระนางมัทรีแล้ว ท้าวสักกะเทวราช ทรงถวายคืนพระนางทันที พร้อมประทานพร 8 ประการแก่พระเวสสันดร เพื่อเป็นเครื่องเสริมบารมี และ ความสำเร็จในพระโพธิญาณ แล้วท้าวสักกะ เสด็จกลับยังเทวโลก ถือเป็นการเสร็จสิ้นเหตุการณ์ อันสำคัญในกัณฑ์สักกบรรพ ของเทศน์มหาชาติ จนได้มีเพลงดังอย่าง เขามัทรี ที่มียอดวิวกว่า 40ล้าน เป็นส่วนหนึ่งในการแสดง ผีตาโขน เช่นกัน

Share:
More Posts